Dan Brown นักเขียนดังได้กล่าวสรุปไว้น่าสนใจว่า ในทางวรรณกรรม, ปมขัดแย้งคือเครื่องมือที่ถูกสร้างขึ้นจากการดิ้นรนต่อสู้ของสองขั้วตรงข้าม, ปมขัดแย้งสร้างความตึงเครียดที่สำคัญและขับเคลื่อนเรื่องราวไปข้างหน้า มันยังใช้เพื่อเปิดเผยความหมายอันลึกซึ้งทีแฝงอยู่ใน Story ขณะเดียวกันก็ขับเน้นแรงจูงใจ จุดอ่อน และค่านิยมของตัวละคร
ยกตัวอย่างง่าย ๆ นาย A เป็นเจ้าของที่ดินตรงนี้โดยกรรมสิทธิ์ นาย B ต้องการครอบครองที่ดินผืนเดียวกันนี้โดยปรปักษ์ ทั้งสองมีความต้องการในที่ดินผืนเดียวกัน และใช้วิธีต่าง ๆ นานาเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง ทีนี้เราก็อยากรู้แล้วใช่ไหมว่าทั้งสองฝ่ายจะได้ที่ดินมาอย่างไร (ปมขัดแย้งแบบนี้จูงใจให้เราดูข่าว และทำให้ทุกวันนี้ข่าวกลายเป็นโชว์ไปทุกวัน)
- Internal Conflict ปมขัดแย้งภายใน
เกิดจากตัวละครดิ้นรนต่อสู้กับความปรารถนาหรือความเชื่อที่ขัดแย้งกันอยู่ภายในตัวของพวกเขา และปมขัดแย้งประเภทนี้จะผลักดันการพัฒนาตัวละคร
- External Conflict ปมขัดแย้งภายนอก
เกิดขึ้นเมื่อตัวละครถูกขัดขวางโดยบางสิ่งหรือบางคนอันอยู่นอกเหนือจากความควบคุมของเขา ทำให้ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ตามแรงจูงใจ ปมขัดแย้งนี้สร้างความตึงเครียดให้เราติดตาม อีกนัยหนึ่งคือความสนุกที่เราจะเห็นตัวละครดิ้นรนเพื่อหลุดพ้นมันออกมา
ปมขัดแย้งออกมาเป็นหัวข้อย่อย ๆ ได้อีก 7 ประการดังนี้
1.Character vs Self ตัวละครปะทะตัวเอง - Globlin / กอลัม
2.Character vs Character
ตัวละครปะทะตัวละครคนอื่น - Avengers vs Thanos
3.Character vs Society
ตัวละครปะทะสังคม - ตัวเอกในเรื่อง Them
4.Chracter vs Nature
ตัวละครปะทะธรรมชาติ - The Impossible
5.Chracter vs Supernatural
ตัวละครปะทะสิ่งเหนือธรรมชาติ - The Mist, Stranger Things
6.Character vs Technology
ตัวละครปะทะเทคโนโลยี - Terminator, iRobot
7.Character vs Fate ตัวละครปะทะชะตากรรม - Romeo and Juliet
ทำไม? เราต้องรู้จักประเภทของปมขัดแย้งเหล่านี้
1. เพื่อให้เข้าใจว่า ปมขัดแย้งทั้งสองฝั่งต้องขับเน้นกันเพื่อพัฒนาทั้งเรื่องราวและตัวละครไปข้างหน้า
ยกตัวอย่าง James Bond 007
เป็นตัวอย่างที่ดี และพัฒนา ปมขัดแย้งทั้งภายนอกและภายในควบคู่กันไป
External Conflict เลอ ชีฟ วายร้ายที่รับฝากเงินจากอาชญากรทั่วโลก ขาดทุนการเอาเงินลูกค้าไปเล่นหุ้น จึงต้องไปเล่นคาสิโนเพื่อนำเงินมาคืน บอนด์จึงต้องไปจัดการกับเลอ ชีฟ แต่กลายเป็นว่าเพื่อนสนิทมิตรสหายบอนด์ที่ทำภารกิจร่วมกันก็ไว้ใจไม่ได้
Internal Conflict บอนด์เป็นสายลับซึ่งควรจะใจเย็นและไม่ยึดติดอีโก้ แต่เมื่อเขาระงับอีโก้และอารมณ์ร้อนของตัวเองไม่ได้ ทำให้เขาต้องสูญเสียคนที่เขารักอยู่ร่ำไป
External Conflict ซิลวา อดีตสายลับเอ็มไอซิคขโมยรายชื่อสายลับไป และค่อย ๆ เปิดเผย จนกระทบความมั่นคงประเทศ และตอนนี้ทางรัฐบาลก็พิจารณาปิดโครงการสายลับรหัสดับเบิ้ลโอ หลังไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาข้อมูล
Internal Conflict สายลับต้องการทักษะที่เฉียบขาด แต่บอนด์สังขารไม่เที่ยงแล้ว เขาก็ยังดันทุรังที่จะออกปฏิการณ์ จนล้มเหลว และความมั่นใจในแผนตัวเองก็ทำให้เขาเสียเอ็มม่า หัวหน้าที่เคารพรักไปในที่สุด
External Conflict องค์กรสเปคเตอร์ชักใยให้ทุกประเทศเข้าสู่ระบบการเข้าถึงข้อมูลด้วยโดรน ดักฟัง และทุก ๆ อย่างเข้าด้วยกัน พร้อมสั่งปิดเอ็มไอซิกโดยอ้างพฤติกรรมบุ่มบ่ามของบอนด์
Internal Conflict บอนด์มัวแต่หมกมุ่นกับการทำภารกิจที่เอ็มม่าส่งให้หลังตาย พฤติกรรมบุ่มบ่ามของเขาขัดแย้งกับองค์กรที่ต้องการอยู่เงียบ ๆ เพราะยิ่งทำเรื่องเละเทะ เอ็มไอซิกก็จะถูกปิด แต่บอนด์ก็ไม่สน
จากทุก ๆ ภาคนอกจากความขัดแย้งภายนอกจากตัวร้ายแล้ว บอนด์ก็มีความขัดแย้งภายในคือ เรื่องอีโก้ ความมั่นใจตัวเอง ที่มักจะขัดกับความเป็นสายลับใต้บังคับบัญชา จนสร้างปัญหามากมายเสมอ
2. ก็เพื่อให้รู้ว่าเราสร้างมันขึ้นมาด้วยการเอาตัวละครไปปะทะกับอะไร การเดินเรื่องตัวละครก็ต้องดิ้นรนเพื่อจะหลุดพ้นจากปัญหานั้น เรื่องราวของเราจะได้ไม่เขว
จะเห็นได้ว่าเราสามารถสร้างถ้าเราเข้าใจการสร้างปมขัดแย้งแล้ว เราสามารถผูกเรื่องไปได้อย่างไม่จำกัด แต่ต้องอยู่ ภายใต้กรอบของ Genre , Setting และ Theme ที่เราสร้างขึ้นมา
คำใหม่มาอีกแล้วใช่ไหมครับ งั้นอย่ารอไปเรียนรู้วิธีการสร้างกรอบของเรื่องราว เพื่อไม่ให้งานของเราฟุ้งซ่านสะเปะสะปะ ในเนื้อหาต่อไปได้เลย