โครงสร้างของการเล่าเรื่องนั้นมาจากการศึกษาพฤติกรรมของมนุษย์กับการรับรู้เรื่องราว ข้อมูลทางพฤติกรรมถูกเก็บรวบรวมและออกแบบมาเป็นวิธีการที่เข้าใจได้ง่าย โดยโครงสร้างต่าง ๆ นั้นพิจารณาจากผลทางอารมณ์เป็นหลัก เพื่อเป็นเครื่องมือในการเขียนให้สนุก น่าติดตาม และบันเทิงใจ โครงสร้างมีมากมายหลายแบบ แต่เราขอนำเสนอเพียง 3 แบบที่เรายึดถือเอาไว้ใช้ในการพัฒนาบทกับผู้สร้างรายอื่นๆในระดับสากล จะมีอะไรบ้างเราไปดูกันเลย
" โครงสร้างการเล่าเรื่องแบบ 3 องก์ "
"สถาปนิกต้องเรียนการเขียนแบบอย่างไร คนเขียนบทย่อมต้องเข้าใจโครงสร้างการเล่าเรื่องฉันนั้น วันนี้เราจะมาพูดเรื่องพื้นฐานสำคัญของการเขียนที่คนเขียนบททุกคนต้องรู้ ไม่รู้คือเขียนบทกับคนอื่นยากแน่ๆ มาดูกันเลยครับ"
3 Act Narration หรือ แปลเป็นภาษาไทยว่า การเล่าเรื่องแบบ 3 องก์ เป็นโครงสร้างง่าย ๆ ที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย เป็นเครื่องมือในการแบ่ง ต้น-กลาง-จบ ชองเรื่องราว และมันก็จะมีลักษณะแบบนี้
ยกตัวอย่างง่ายๆ ก็จะเป็นเรื่องของ "นาย C เป็นแฟนกับนาง A แล้วมีนาง B จะมาแย่งนาย C "
องก์ 1 : Setup
Introduction
•นาง A เป็นแฟนกับนาย C และอยู่กันอย่างสงบสุข
Exposition
•วันหนึ่งนาง B มาทำเสน่ห์แย่งเอานาย C นาง A เสียใจมาก
องก์ 2 : Confrontation
Rising Action
•นาง A จึงวางแผนทำทุกอย่างเพื่อทำให้นาย C กลับมาไม่ว่าจะเป็นการ
•ไปแย่งตัวจากบ้าน แต่ก็หนีกลับไปทุกครั้ง
•คุยกับนาง B ดีๆ แต่นาง B ก็ขู่กลับและเยาะเย้ย ว่าไม่มีน้ำยา ทำให้นาง A เสียอกเสียใจ
Stakes get higher
นาย C จะยกทุกอย่างให้กับนาง B ทั้งที่เป็นสินสมรสกันมา
นาง A ไปพบกับหมอผีที่จะทำพิธีให้นาง B เลยตกลงให้ถอนของพร้อมให้เงินเยอะกว่า
Climax
หมอผีทำพิธีให้กับนาง A จนสำเร็จ นาย C กลับมาเป็นคนเดิม
องก์ 3 : Resolution
Falling Action
•นาย C กลับมาอยู่กับนาง A เหมือนเดิม
•นาง B เป็นบ้าเพราะของเข้าตัว
พอจะเริ่มเห็นภาพคร่าว แล้วทีนี้ลองมาดูใน Scale การเล่าเรื่องที่ใหญ่ขึ้นดูละกัน ยกตัวอย่าง Avenger :Infinity war ที่เรารู้จักกันดี ต่อจากนี้เราจะเอาการเล่าเรื่อง 3 องก์มาเทียบ ดูนะครับ
พบกับ Avenger Infinity War
Act 1 : Setup
1.Setting & Inciting Incident
ว่าด้วยการเล่าโลกปกติของตัวละครที่จู่ ๆ ก็มีเรื่องเกิดขึ้นกับชีวิตของเขา เป็นการเซต Objective หรือ Premise หลักของเรื่อง ว่าตัวละครเรากำลังต้องเผชิญหน้ากับอะไร และเขาจะทำมันได้สำเร็จหรือไม่
เรื่อง Avengers: Infinity War เล่าเรื่องโลกที่มีเหล่ายอดมนุษย์อเวนเจอร์อยู่กันอย่างสงบสุข แต่วันหนึ่งก็ถูกธานอสบุกมาเพื่อชิง Infinity Stone เพื่อหวังจะใช้ทำให้คนหายไปครึ่งจักรวาล เหล่าอเวนเจอร์จะปกป้องมณีเพื่อกอบกู้ชีวิตกว่าครึ่งจักรวาลได้หรือไม่? เราจะเห็นได้ว่าการ Setup จะเกิดขึ้นภายใน 13 นาทีแรกของเรื่อง
Act 2 : Confrontation
1.หลังจากเซตอัพเรื่องเสร็จแล้ว ก็จะเห็นแรงจูงใจของตัวละคร และภารกิจที่ตัวละครต้องการจะทำให้สำเร็จ แต่ตัวละครก็จะเจออุปสรรคเข้ามามากมายให้ฟันฝ่า มีทั้ง ล้มเหลว และ สำเร็จ เพราะถ้าตัวละครสามารถทำสิ่งที่ต้องการได้โดยไม่เจอปัญหาใด เรื่องราวก็จะจบลงและไม่มีอะไรให้คนดูตามต่อ
โทนี่เสนอวิธีแก้ปัญหาด้วยการชิงทำลายมณีเวลา แต่ ดร.สเตรนจ์ปฏิเสธ จนลูกน้องธานอสบุกมาต่อสู้ สร้างความเสียหายให้โลก จนชนะและจับ ดร.สเตรนจ์ ขึ้นยานและมุ่งหน้าไปยังไททันได้ โทนี่จึงต้องขึ้นยานไปช่วย ดร.สเตรนจ์
2.เรื่องดำเนินมาจนถึง Midpoint เป็นจุดที่ตัวละครใช้วิธีการเดิมแก้ปัญหาแล้วมันไม่เวิร์ค จึงต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆถ้าเป็นโศกนาฎกรรมก็คือ มีคนเสียชีวิต หรือ ถ้าเป็นหนังรัก ก็จะเป็นจังหวะที่พระเอกนางเอกเลิกกันและดูเหมือนว่าไม่สามารถกลับมาคบกันได้อีก
ยกตัวอย่าง Avengers: Infinity War หลังจากที่ช่วย ดร.สเตรนจ์เสร็จ โทนี่ สตาร์คได้เรียนรู้ว่าการรอคอยในธานอสบุกมาที่โลกแล้วป้องกันนั้น สร้างความสูญเสียอย่างมาก เขาจึงต้องเปลี่ยนวิธีรับมือใหม่ ด้วยการบุกไปสู่ยังถิ่นของธานอสที่ดาวไททัน
3.Plot point หรือ การพิสูจน์ว่าสิ่งที่ตัวละครคิดจะเปลี่ยนแปลงนั้นสามารถแก้ปัญหาได้จริงหรือไม่ ก่อนจะเข้าองก์สุดท้าย
ยกตัวอย่าง Avengers: Infinity War โทนี่ สตาร์ค ที่ตัดสินใจบุกไปที่ดาวไททัน ด้วยความเชื่อที่จะหยุดยั้งธานอสก่อนที่จะบุกไปยังโลก ก็ต้องพบกับความล้มเหลว เมื่อแผนการซุ่มโจมตี ดึงถุงมือมณี พังยับจากการที่สตาร์ลอร์ดยั้งอารมณ์ไม่อยู่ และเมื่อต่อสู้กัน พวกโทนี่ก็พ่ายแพ้ให้กับธานอสจนเสียมณีเวลาไปในที่สุด พิสูจน์ว่าความเชื่อที่โทนี่คิดว่าจะหยุดได้นั้น ก็เป็นความเชื่อที่ผิด
4.จุด Climax คือ จุดวิกฤตสูงสุดของสิ่งที่ตัวละครหลักต้องเจอ ตัวละครต้องใช้วิธีการแก้ปัญหาใหม่ ๆ ที่เขาเรียรู้ เพื่อจัดการหยุดหยั้งปัญหาและทำภารกิจให้สำเร็จหรือไม่สำเร็จ
ยกตัวอย่าง Avengers: Infinity War เมื่อธานอสยึดมณีเวลาจากดาวไททันมาจากพวกโทนี่ได้ ก็บุกมาที่โลกเพื่อชิงมณีวิญญาณที่โลก เหล่าอเวนเจอร์สต้องพยายามหยุดยั้ง ด้วยการทำลายมณีวิญญาณก่อนที่ธานอสจะชิงไป แต่ท้ายที่สุดก็สูญเสียมณีวิญญาณ และก่อนที่ธานอสจะใช้พลังมณีลบล้างชีวิตครึ่งจักรวาล ธอร์ก็ได้ฟาดสตอร์มเบรคเกอร์ไปที่หน้าอกธานอสหวังปิดชีวิต แต่ก็ไม่ทันแล้ว ธานอสดีดนิ้วและทำให้ชีวิตครึ่งจักรวาลหายไป อเวนเจอร์สล้มเหลว
Act 3 : Resolution หรือ Denouncement
1.เป็นจุดที่ต้องตอบคำถามที่เซต Objective เอาไว้ หรือ Premise
ยกตัวอย่าง Avengers: Infinity War กับคำถามที่ว่า เหล่าอเวนเจอร์สจะสามารถปกป้องมณีเพื่อกอบกู้ชีวิตกว่าครึ่งจักรวาลได้หรือไม่ ซึ่งในกรณีนี้ ท้ายที่สุดเหล่าอเวเจอร์สก็พ่ายแพ้ให้กับธานอสและสูญเสียชีวิตไปครึ่งจักรวาล ธอร์เกิดแผลในใจ เป็นความแค้นถ้าหากเขาลงขวานไปที่หัวของธานอสคงไม่เกิดสิ่งนี้ขึ้น
2.ไม่ว่าตัวละครจะสามารถทำสิ่งที่ Premise เอาไว้ได้สำเร็จหรือไม่ แต่ตัวละครจะต้องมีการเรียนรู้อะไรบางอย่าง และเกิดการเปลี่ยนแปลง
ซึ่งในกรณี Avengers: Infinity War เหล่าอเวนเจอร์สก็เปลี่ยนแปลงวิธีการที่จะต่อสู้กับธานอสต่อในภาค End Game
3.Denoument & Conclusion หรือ จุดคลี่คลาย เป็นจุดผ่อนคลายและสรุปเรื่องก่อนจะจบลงไป
•กรณี Avengers: Infinity War สำหรับเหล่าอเวนเจอร์สนั้นเป็นการจบแบบค้างคาสำหรับเหล่าฮีโร่ที่ไม่สามารถกอบกู้ชีวิตครึ่งจักรวาลไว้ได้ แต่ถ้ามองกลับกัน มันคือการทำภารกิจที่สำเร็จของตัวร้ายอย่างธานอส และเมื่อธานอสทำสำเร็จ เขาก็ได้เปิดวาร์ปไปยังดาวดาวหนึ่งที่มีฟาร์ม เพื่อนั่งชมพระอาทิตย์ตกดิน ใช้ชีวิตเรียบง่ายตามความต้องการและจบเรื่องไป
สิ่งที่แตกต่างไปจาก Diagram อันแรกคือจริง ๆ แล้ว Plot Point ไม่จำเป็นต้องมีครั้งเดียวนะ มันสามารถเกิดขึ้นหลายครั้งได้ หากแต่ละครั้งต้องสร้างพัฒนาให้กับตัวละครและ Plot
ถ้าลองเราเรื่องเล่าทุกเรื่องบนโลกมาเทียบ แม้แต่ข่าว , นิทาน เรื่องเล่าในชีวิตประจำวันก็ใช้วิธีการเดียวกันนี้ในการเล่าเรื่อง ลองสังเกตุหาจุด ก็ช่วยทำให้เราเข้าใจการเล่าเรื่องและนำมาใช้กับงานของเราได้แม่นยำขึ้น อย่างพอเวลาเราเอาเรื่องเราไปเข้าไว้ในโครงสร้างแล้ว ตอนที่เราหลงทางหรือเขียนอะไรเต็มไปหมดในบทของเรา เราลองถอยออกมาดูภาพรวมของเรื่อง แล้วเอาโครงสร้างนี้มาจับดูมันจะช่วยบอกได้ว่าฉากที่เรากำลังเล่ามันอยู่จุดไหนของโครงสร้างและเราจะให้ความสำคัญในการแก้ปัญหานี้ยังไง
สามารถ Download แผนผังที่เราใช้ในการเขียนงานของเราเอาไปเติมคำในช่องว่างเพื่อเข้าใจโครงเรื่องของตัวเองได้
Commentaires