เราทุกคนเขียน เพราะมีเรื่องราวที่อยากจะเล่า แต่หลายคนก็ยังสับสนว่าเราจะเริ่มจากตรงไหนดี บางทีขีดๆเขียนๆ อะไรไปตั้งเยอะก็ไม่แน่ใจว่าที่เขียนไปแล้ว มันใช่เรื่องที่น่าสนใจไหม เกิดความลังเล ไม่มั่นคง พาลจะทำให้ไม่ได้เขียนเอาสักที วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีการเริ่มต้นของการเขยีนงาน โดยเริ่มจากการทำความรู้จัก Story และ Plot
Story คืออะไร ??
ความหมายสากล "Story" คือ
ชุดของเหตุการณ์ ที่มี ต้น - กลาง - จบ และในตอนจบมีบางสิ่งบางอย่างในเรื่องราวนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลง
ตัวอย่าง "บรูซ เวยน์" เด็กหนุ่มลูกมหาเศรษฐีแห่งเมืองก็อธแธม ที่สูญเสียพ่อแม่จากอาชญากร เมื่อเขาได้พบว่ากระบวนการยุติธรรมปกติไม่สามารถที่จะจัดการเหล่าอาชญากรในเมืองนี้ได้ เขาจึงฝึกฝนวิชาต่อสู้และลุกขึ้นมาปราบอาชญากรเมืองก็อธแธมในนาม แบทแมน
Plot คืออะไร ??
คือ "กลวิธีที่เราใช้ในการเล่าเรื่อง"
•เพื่อสร้างความสนุก
•จัดการเหตุการณ์ในเรื่องให้น่าติดตาม
•ควบคุมความสนใจของคนดู
ตัวอย่าง BATMAN Trilogy ของ Nolan
Batman Begin = จุดกำเนิดของ BATMAN เมื่อบรูซ เวย์น สูญเสียพ่อแม่ และหมดศรัทธากับระบบความยุติธรรมแบบเดิม เขาได้ฝึกฝนฝีมือการต่อสู้จนเก่งกาจ และเมื่อกลับมาก็อธแธมเขาก็พบว่าราซอัลกูลได้ปฏิบัติการปล่อยสารเคมี หวังล้างบางประชากรก็อธแธม บรูซจึงต้องทำทุกทางเพื่อหยุดยั้งแผนร้ายและช่วยเหลือก็อธแธมเอาไว้ในนามของ แบทแมน
Batman The Dark knight = เมื่อตัวร้ายสั่นคลอนศีลธรรมของเมือง Gotham หลังจากที่แบทแมนตั้งตนเป็นศาลเตี้ย และอัยการเดนท์โผล่มาปราบผู้ร้ายแบบสีขาว อาชญากรระดับล่างก็ค่อย ๆ หายไป แต่นั่นก่อให้กำเนิดอาชญากรคนใหม่ที่ร้ายกาจกว่าเดิม นามกว่าโจ๊กเกอร์ ที่โผล่มาทดสอบศีลธรรมของแบทแมน เดนท์ และรวมถึงชาวก็อธแธม
Batman Dark Knight Rise = จุดจบของ BATMAN หลังจากที่ล้มล้างแผนการราซอัลกูลในภาคแรกได้ แบทแมนก็ต้องเผชิญหน้ากับความแค้นจากผู้สืบทอดเจนตนารมณ์ของราซอัลกูลที่มีนามว่า เบน วายร้ายคนใหม่ที่กลับมาล้างบางก็อธแธมด้วยระเบิดนิวเคลียร์ และนี่อาจเป็นจุดจบของแบทแมนตลอดกาล
เรื่องราวของแบทแมน เมื่อใส่พล็อตเข้าไป ก็กลายเป็นหนังได้ถึง 3 ภาค โครงสร้างเรื่องและ Genre จะถูกสร้างขึ้นจากการที่เราสร้าง Plot ขึ้นมา ลองยกกรณีศึกษาลองคิด Story ขึ้นมาแล้วหา Plot มาห่อหุ้มมันดู
ตัวอย่าง : Spider Man
Story : เด็กหนุ่มถูกแมงมุมกัดและทำให้มีพลังวิเศษ
หา Plot มาขับเคลื่อนมันจะเห็นได้ว่ามันจะนำเราไปสู่การเลือก "Genre และสร้างโครงเรื่อง"
ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ โดนแมงมุมกัดแล้วใยพ่นออกมาอย่างควบคุมไม่ได้จนแฟนจะขอเลิกเพราะคิดว่าทำเรื่องบัดสีตลอดเวลา คือ Genre แบบ Comedy
ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ โดนแมงมุมกัดแล้วตาย มี FBI เข้ามาสืบสวนว่าใครปล่อยแมงมุมนี้ออกมา คือ Genre แบบ Crime Suspense
ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ โดนแมงมุมกัดแล้วพิการ พ่อแม่ต้องออกจากงานเพื่อดูแลผู้ป่วยติดเตียง เขาจึงทำทุกอย่างเพื่อให้หลุดพ้นจากความน่าอดสูอันนี้ คือ Genre แบบ Drama
Plot จาก Story ต่างกันอย่างไร ?
เราสามารถแยกแยะ 2 สิ่งนี้ออกจากกันได้ ในมุมมอง "Narration Element"
องค์ประกอบของ "Narration Element"
"Plot" คือ...
Story คือ...
ความสัมพันธ์ของ
Plot
และ
Story
จะมีหนังบางประเภทที่ว่าด้วยกลุ่มคนที่ออกมากระทำบางอย่างเพื่อบรรลุความต้องการของตัวเองหรือกลุ่มไปจนจบ เช่นพวกหนัง Action หนัก ๆ มันคือหนักไปทาง Plot
หนังที่เล่าเรื่องของตัวละครไปเรื่อย ๆ ไม่ค่อยเห็นการกระทำใดหนักหน่วงหรือนำคนดูไปสู่ปมขัดแย้งที่ใหญ่โต คือหนังที่ Story นำและส่วนใหญ่ก็เป็นหนัง ART
แต่ไม่ใช่ว่าหนังที่เอาอย่างใดอย่างหนึ่งนำจะกลายเป็นหนังที่ไม่ดี เพราะถ้า Execution ของมันฉลาดและดี นำพาอารมณ์ของคนดูไปจนจบได้ ก็ถือว่าเป็นการหนัง Plot นำหรือหนังตลาดที่ประสบความสำเร็จ เช่นเดียวกับการเล่าเรื่องผ่านนักแสดงที่มีเสน่ห์นำพาเรื่องราวง่ายๆไปจนจบเรื่องอย่างประทับใจได้ ก็อาจจะเป็นหนังที่ดีได้เช่นกัน
ยุคนี้เราจึงเห็นหนังมากมายที่ Balance สิ่งเหล่านี้ไว้ได้จนทำให้หนังได้ทั้งเงินและคำวิจารณ์ที่ดี
ตัวอย่างหนังที่ Balance ระหว่าง Plot และ Story ได้ดี
Spider-Man Into the Spider-Verse (2018)
ทำรายได้มากถึง 375 ล้านเหรียญ ทั่วโลก ตัวหนังว่าด้วยเรื่อง ไมล์ โมราเลส เด็กหนุ่มมัธยมปลายผิวดำที่พึ่งจะย้ายโรงเรียน ต้องพยายามปรับตัวกับสิ่งต่าง ๆ มากมาย ขณะที่ยังปรับตัวกับโรงเรียนใหม่ไม่ได้ อยู่ ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาด เมื่อทั้งเมืองไฟดับลง และประตูมิติถูกเปิดออก เขาก็ถูกแมงมุมอาบรังสีกัดที่หลุดมาจากประตูมิติกัดจนได้รับพลังสไปเดอร์แมนมา เขาไม่รู้ว่าต้องทำยังไงกับพลังที่ได้รับ จึงไปถามปีเตอร์ พาร์คเกอร์ในจักรวาลของเขาที่ตายไปแล้วที่หลุมศพ แต่กลับได้พบปีเตอร์จากอีกจักรวาล ทำให้รู้ว่าตอนนี้จักรวาลของเขามีสไปเดอร์แมนอีกมากมาย และเรื่องเขาต้องจัดการหาคำตอบพร้อมกับส่งทุกคนกลับไปยังบ้านของตัวเอง
หนังมีพล็อตที่น่าสนใจกับเหตุการณ์ระดับพหุจักรววาล แต่ก็ไม่ลืมที่จะเก็บรายละเอียด ความต้องการ ความรู้สึก เรื่องราวของตัวละครแต่ละตัว ทำให้เราเข้าใจเหตุและผลการตัดสินใจตัวละครหลักได้อย่างลึกซึ้ง ทั้งนี้หนังเรื่องนี้ถูกจัดเป็นอยู่ใน WGA’s 101 Greatest screenplays of the 21st
Parasite (2019)
ทำรายได้ 259 ล้านเหรียญ ทั่วโลก ตัวหนังว่าด้วยเรื่องของครอบครัวคนจนครอบครัวหนึ่ง ที่ลูกชายได้เข้าไปทำงานให้กับคนรวยด้วยวิธีต้มตุ๋น และก็กัดกินใช้ประโยชน์นำพาทั้งครอบครัวมาทำงานที่นี่ วันหนึ่งที่เจ้าของบ้านไม่อยู่เพราะไปเที่ยวต่างจังหวัด ครอบครัวนี้ก็มากินอยู่ที่บ้านหลังนี้แต่แล้วพวกเขาก็ได้พบกับห้องลับ ที่นำพามาซึ่งเรื่องไม่คาดฝันและโศกนาฎกรรม
หนังว่าด้วยเรื่องง่าย ๆ ที่ไม่หวือหวา แต่เมื่อเล่าไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งมีพล็อตที่ทำให้ผู้ชมต้องอึ้ง แต่ก็ยังไม่ทิ้งความรู้สึก ความต้องการของตัวละคร และทำให้เราเข้าใจครอบครัวคนจนนี้ได้ พร้อมทั้งยังมีสัญญะมากมายให้ได้ตีความ เรียกได้ว่าเป็นการผสมระหว่าง หนังอาร์ตกับหนังตลาดได้อย่างลงตัว เพราะนอกจากทำรายได้แล้วยังได้รางวัลออสกอร์สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปี 2019 ไปครองอีกด้วย
1.หาเรื่องที่อยากจะเล่า...
หาเรื่องราวที่เรามีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเล่ามัน ถามใจตัวเองว่าทำไมเราถึงอยากเล่ามันให้โลกนี้รู้ มันอาจจะเป็นเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ ในชีวิตที่เราที่มันเปลี่ยนแปลงชีวิตเราและคิดว่าคนอื่นๆ น่าจะสนใจมัน
2.สรุปเรื่องที่อยากจะเล่า...
สรุปให้ได้กับตัวเองว่า "ต้น กลาง จบ" ของเรื่องที่เราอยากจะเล่ามันมีอะไรบ้าง และมีความเปลี่ยนแปลงที่น่าสนใจอย่างไร
3.เลือกวิธีการที่อยากจะเล่า...
เลือกวิธีการที่เราจะเล่า ตามแนวทางที่เราถนัดนั่นก็คือการเลือกGenre เลือก Plot
4.เขียนมันออกมา... เขียนมันออกมา ให้ได้มากที่สุด ปล่อยให้ตัวละครนำทางเราไป
แล้วมันจะถึงจุดนึงที่คุณอาจจะตัน หาทางไปไม่ได้ เพราะตัวละครของคุณไม่นำพา หรือคุณอาจจะสร้างตัวละครของคุณไม่น่าสนใจพอ ก็ขอให้คุณดูคลิปต่อไปที่ว่าด้วย "การออกแบบตัวละคร" ในบทความต่อไปได้เลย
Comments