top of page
Studio Commuan

"เรื่องบังเอิญ"




แสงแดดยามเช้าส่องกระทบหน้าต่างลอดผ่านผ้าม่านสีขาวบางๆ ในช่วงต้นฤดูร้อน ที่เข้ามาในห้องและกำลังแยงตาอยู่...กะว่าวันนี้จะตื่นสายกันสักหน่อย เอือมหยิบมือถือที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงเพื่อดูเวลา "นี่พึ่งจะ 7 โมงเช้า" และได้เหลือบไปเห็นการแจ้งเตือนของ แอพ Facebook ว่ามีใครสักคนเพิ่มเพื่อนเรามา ชื่อคุ้นๆเลยกดเข้าไปดู ซึ่งตอนนั้นทำให้ผมหายจากอาการงัวเงียเลย...เรื่องบังเอิญ



 


สิ่งที่ทำให้ผมหายจากอาการงัวเงีย “ก็เพราะเป็นพี่คนหนึ่งตอนสมัย ม.ปลาย ซึ่งผ่านมา 2 ปีแล้ว ที่เราไม่ได้เจอกันอีกเลย หลังจากจบงานปัจฉิมที่โรงเรียน” #เรื่องบังเอิญ ทันใดที่ผมรับเขาเป็นเพื่อน ข้อความก็เด้งขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก็เริ่มแนะนำตัว ว่าจำได้ไหม ว่าเขาคือใครยังไง เราก็แกล้งๆจำได้บ้าง ไม่ได้บ้าง (ที่จริงแล้วก็จำได้แหละ เพราะเฝ้ารอหวังว่าจะได้เจอกันอีก) บทสทนาในแอพ Messenger เริ่มถี่ขึ้น "ผมถึงขั้นต้องเสียบสายชาร์ตไปด้วยแชทไปด้วยเลย"สักพักพี่เขาก็ส่งรูปน้ำตกที่หนึ่งมาซึ่งเราอยากจะไปเที่ยวที่นั่นอยู่พอดี (เหมือนจะมีใครไปกระซิบบอกยังไงไม่รู้) เราก็รีบพิมพ์ตอบตกลงอย่างไม่เว้นช่วงเวลาคิดเลย ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเราอยากเจอพี่เขาหรืออย่าไปเที่ยวน้ำตกกันแน่ ฮ่าๆๆๆ





ถึงเวลาที่เรานัดกันพอดี นี่ไม่รู้ว่าจะเรียกความบังเอิญ หรือว่าอะไรดี ชุดที่เราใส่มาเที่ยวน้ำตกยังคล้ายๆกันอีกท่ามกลางป่าเขา ที่มีเสียงนกร้องอยู่รอบๆ และเสียงน้ำที่ตกจากหน้าผาสูง ที่ไหลผ่านสะพานที่เราได้ยืนอยู่ประโยคแรกที่เราทักทายกัน ยังเป็นชื่อที่เราเรียกกันในสมัยที่เรียน ม.ปลาย ไม่คิดว่าพี่เขายังจะจำชื่อนั้นได้ ผมอดที่จะมองหน้าพี่เขาไม่ได้ เพราะเราไม่ได้เจอกันนานมาก ซึ่งผมได้แอบยิ้มในใจ บทสนทนาบนสะพานนี้เต็มไปด้วยประโยคคำถามคำตอบ ถึงเรื่องราวที่ผ่านมา "จริงแล้วลึกๆในใจของผม ตลอดเวลาที่เราสองคนห่างหายกัน ผมได้แต่ภาวนาขอให้ได้เจอกันอีก"





ณ ช่วงเวลานี้ผมโคตรมีความสุขที่สุดเลยผมได้แต่ยิ้มไม่หุบ เพราะรอยยิ้มที่อยู่ตรงหน้าผม เป็นรอยยิ้มที่ผมเฝ้ารอมานาน และรอยยิ้มนี้ที่เห็นล่าสุดก็เมื่อสองปีก่อน ที่งานปัจฉิมที่โรงเรียน เท่าที่จำได้คือผมแอบเอาช่อดอกกุหลาบสีขาวไปแสดงว่ายินดีกับพี่เขาด้วย เสียงของน้ำที่ตกกระทบกับหินลูกใหญ่ ตรงชั้นที่เรายืนอยู่ยังดังเรื่อยๆ และเสียงลมที่พัดผ่านหูเบาๆทำให้ลืมเรื่องราววุ่นๆก่อนหน้านี้ไปเลยโชคดีวันที่เราสองคนไปผู้คนไม่มากนัก ยิ่งทำให้เราสองคนได้สัมผัสเสียงของน้ำตก เสียงนกร้อง เสียงของสายลม และเสียงของหัวใจ ซึ่งไม่เคยเต้นแรงแบบนี้มานาน





เราสองคนยังเดินขึ้นไปตามแผนที่ของน้ำตกเรื่อยๆ แวะนั่งพัก ตรงจุดไฮไลท์ของแต่ละชั้นแสงแดดยามบ่ายแก่ๆ ที่สะท้อนผิวน้ำ เมื่อเรายกกล้องขึ้นมาถ่าย รูปที่ได้จะทำให้เกิดโบเก้เป็นวงกลม "คงไม่ต่างอะไรกับเราสองคนที่อยู่ๆก็ยังวนมาเจอกัน"เราสองคนยังเดินขึ้นไปตามทางเรื่อยๆ ระหว่างเดินขึ้นนั้นก็แอบเหนื่อยกันนิดๆ ผมก็อาสาจุงมือพี่เขาขึ้นไปเราก็เจออีกจุดที่สวยไม่แพ้กัน น้ำที่ตกกระทบกับหินและกระเซ็นโดนตัวเราทำให้เราได้สัมผัสถึงความเย็นของน้ำและเหมาะ

แก่การลงเล่นเพื่อคลายร้อนเป็นอย่างมาก






เราสองคนยืนมองสายน้ำตกที่ไหลลงมาฟุ้งๆลงจากผาสูงราวกับม่านสีขาว สักพักพี่ก็พูดขึ้นมา “ว่านานเท่าไหร่แล้วที่เราสองคนไม่ได้มายืนอยู่ด้วยกันท่ามกลางที่ที่ปลอดจากความวุ่นวายแบบนี้” ผมได้ตอบไปด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข สักพักพี่ก็มองหาทางที่จะพาผมขึ้นไปสัมผัสน้ำตกสวยๆที่ผมอยากสัมผัสมานานแล้วเราก็หาทางปีนป่ายหินขึ้นมาและนั่งใกล้ๆน้ำตกที่ไหลฟุ้ง สวย ให้มากที่สุด

นั่งคุยกันไม่นานนักพอหายเหนื่อยจากการปีนป่ายหินแล้ว พี่ ก็ขยับเข้ามาใกล้ๆและบอกกับผมว่า “อย่าหายไปไหนอีกนะเพราะเรายังมีเรื่องค้างคาที่ต้องคุยกันอีกเยอะ” ผมได้แต่หันไปมองพร้อมกับพยักหน้าและยิ้มมุมปากเบาๆ และน้ำตกก็ยิ่งกระเซ็นใส่เราไม่ขาดสาย ทำเอาชุ่มพอสมควรและยิ่งง่ายต่อการตัดสินใจว่าจะลงเล่นน้ำหรือไม่






ไหนๆก็มาถึงแล้ว เราสองคนไม่รอช้ารีบถอดเสื้อลงเล่นน้ำ จนลืมไปว่าเราไม่ใช่เป็นเด็กแล้วนะ ฮ่าๆ

เมื่อเอาเท้าจุ่มลงน้ำ ที่ตกจากหน้าผาที่สูง ทำให้รู้สึกว่าอุณหภูมิในร่างกายที่กำลังร้อนได้ลดลงอย่างรวดเร็ว แต่ใจผมนี่ยิ่งเต้นถี่และแรงขึ้นเรื่อยๆผมแทบจะหลบสายตาจากพี่เขา ด้วยความเขิลปนอายนิดๆ ไม่คิดว่าพี่เขาจะมีเรือนร่างที่ราวกับนายแบบ จังหวะที่ผมได้หันไปมองหน้าของพี่ และเผลอไปสบตา ทำให้รู้สึกว่าสายตาของเขาสื่อถึงความคิดถึงเป็นอย่างมาก ระหว่างที่เล่นน้ำไปคุยกันไป ผมรู้สึกได้ว่าตัวเองยิ้มไม่หุบเลย..บางครั้งการสบตากัน

ก็ทำให้เรารับรู้ถึงความในใจที่อีกฝ่ายกำลังสื่อออกมาได้เหมือนกันนะ





หลังจากที่เราสองคนได้ขึ้นจากน้ำและมองดูนาฬิกา เข็มสั้นที่กำลังจะชี้ไปที่เลข 5 ซึ่งใกล้จะหมดเวลาสำหรับที่ตรงนี้แล้วเวลาสำหรับการมาน้ำตกแห่งนี้ที่ใกล้จะหมดลงแล้ว...แต่ช่วงเวลาของเราที่มีความสุขต่อกันยังไม่หมดลงเท่านี้ เพราะเรายังมีเรื่องราวที่ต้องสะสางกันอยู่อีกมากมาย…ขอบคุณช่วงเวลาดีๆที่ทำให้หัวใจของเราสองคนกลับมาเต้นแรงกันอีกครั้ง




Related Posts

See All
bottom of page